รหัสไปรษณีย์เป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะเกี่ยวข้องกับการส่งจดหมาย พัสดุ และการทำธุรกรรมออนไลน์เกือบทั้งหมด แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า รหัสไปรษณีย์ไทย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไร และใครคือผู้มีบทบาทสำคัญในการนำระบบนี้มาใช้ในประเทศไทย
จุดกำเนิดของรหัสไปรษณีย์ในโลก
ก่อนเข้าสู่ประเทศไทย ต้องรู้ก่อนว่า รหัสไปรษณีย์เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศเยอรมนีในช่วงปี ค.ศ. 1941 ก่อนแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและอังกฤษที่ใช้ระบบนี้อย่างจริงจังเพื่อจัดระเบียบการส่งไปรษณีย์ ทำให้การคัดแยกจดหมายและพัสดุเป็นไปอย่างแม่นยำ รวดเร็ว และลดความผิดพลาด
ประเทศไทยเริ่มใช้รหัสไปรษณีย์เมื่อใด
ประเทศไทยนำระบบรหัสไปรษณีย์มาใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กรมไปรษณีย์โทรเลข (ปัจจุบันคือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด) ซึ่งได้เล็งเห็นถึงปัญหาความล่าช้าและความผิดพลาดในการจัดส่งไปรษณีย์ เนื่องจากประเทศไทยมีการขยายตัวของเมืองและจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ใครคือผู้มีบทบาทสำคัญ
การริเริ่มระบบรหัสไปรษณีย์ไทยเป็นผลจากความร่วมมือของผู้บริหารระดับสูงในกรมไปรษณีย์โทรเลขและทีมงานเทคนิคที่ศึกษาแนวทางจากต่างประเทศ แล้วปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และการจัดการภายในประเทศ โดยกำหนดให้รหัสไปรษณีย์ไทยเป็นตัวเลข 5 หลัก ซึ่งสามารถแบ่งพื้นที่จัดส่งได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
หลักการของรหัสไปรษณีย์ไทย
- ตัวเลข หลักแรก ใช้แบ่งพื้นที่ออกเป็นภูมิภาค เช่น ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ตัวเลข หลักที่สองและสาม แบ่งย่อยลงมาเป็นจังหวัด
- ตัวเลข หลักที่สี่และห้า ใช้กำหนดเขตอำเภอหรือพื้นที่จัดส่งโดยเฉพาะ
ด้วยโครงสร้างนี้ รหัสไปรษณีย์ไทยจึงช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถคัดแยกพัสดุและจดหมายได้อย่างรวดเร็ว มีมาตรฐาน และลดโอกาสการจัดส่งผิดพลาด
ความสำคัญในปัจจุบัน
ในยุคของการค้าออนไลน์ รหัสไปรษณีย์ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่เอาไว้ใส่ในที่อยู่เท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการคำนวณค่าขนส่ง การกำหนดเส้นทางการส่ง และการใช้เทคโนโลยีติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ หากไม่มีรหัสไปรษณีย์ การจัดส่งสินค้าจะยุ่งยากและเสียเวลามหาศาล
สรุป
รหัสไปรษณีย์ไทยเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้ริเริ่ม หลังจากศึกษาแนวทางจากต่างประเทศและปรับให้เหมาะสมกับประเทศไทย ระบบตัวเลข 5 หลักที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันช่วยให้การจัดส่งจดหมายและพัสดุมีความรวดเร็ว แม่นยำ และรองรับการเติบโตของการค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
ที่มา https://xn--k3cik3abbb2cgj0etczlg3j.com