การเดินทางด้วยรถไฟเป็นหนึ่งในวิธีการสัญจรที่ผู้คนหลายล้านเลือกใช้ในแต่ละวัน ทั้งเพื่อเดินทางไปทำงาน ท่องเที่ยว หรือขนส่งสินค้าในปริมาณมาก เหตุผลที่รถไฟยังได้รับความนิยมต่อเนื่องแม้จะอยู่ท่ามกลางตัวเลือกหลากหลายในยุคใหม่ คือความรู้สึก “มั่นคง” และ “ปลอดภัย” แต่คำถามที่หลายคนไม่เคยตั้งคำถามคือ มันปลอดภัยจริงหรือแค่เราคิดไปเอง ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไฟไทย วิเคราะห์ทั้งมุมที่น่าเชื่อถือ และความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่แบบไม่ปิดบัง

โครงสร้างการเดินรถไฟของไทย ยุคใหม่หรือยังล้าหลัง

ประเทศไทยมีระบบรางที่ยาวและครอบคลุมหลายจังหวัด แต่เส้นทางจำนวนมากยังใช้รางเดี่ยว ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ต้องใช้ “การหลีกขบวน” ทำให้ความเร็วลดลง และอุบัติเหตุเกิดง่ายหากมีความผิดพลาดในการสื่อสาร แม้ช่วงหลังมีการลงทุนพัฒนารถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในบางเส้นทาง เช่น รถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบิน หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายจีน-ลาว แต่ก็ยังเป็นโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างและยังไม่สามารถให้บริการได้ทั่วประเทศ

อุบัติเหตุรถไฟไม่ได้เกิดบ่อย แต่เมื่อเกิด ผลรุนแรงเสมอ

ข้อมูลจากหลายหน่วยงานพบว่า อัตราอุบัติเหตุของรถไฟต่ำกว่าพาหนะอื่น เช่น รถยนต์หรือจักรยานยนต์มาก แต่ปัญหาคือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น รถไฟชนกับรถยนต์ที่ข้ามทางรถไฟ หรือขบวนรถตกราง ผลกระทบจะรุนแรงทันที ทั้งต่อชีวิตผู้โดยสารและระบบเดินรถที่หยุดชะงักเป็นวงกว้าง อีกหนึ่งปัจจัยคือ ความเก่าและขาดการซ่อมบำรุงของระบบสัญญาณ ระบบเบรก และความพร้อมของพนักงาน หากไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดพอ ก็ยากจะอ้างได้เต็มปากว่าปลอดภัยจริง

มาตรการด้านความปลอดภัย มีหรือแค่บนกระดาษ

การรถไฟแห่งประเทศไทยได้วางมาตรการความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบรางรายวัน การฝึกอบรมพนักงานขับรถและพนักงานควบคุมขบวน แต่คำถามคือ มีการปฏิบัติจริงอย่างเข้มงวดแค่ไหน หลายกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พบว่าสาเหตุคือความผิดพลาดจากคน เช่น พนักงานขับรถฝ่าข้อบังคับ หรือสื่อสารคลาดเคลื่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัจจัยมนุษย์ยังคงเป็นช่องโหว่สำคัญที่ระบบอัตโนมัติยังควบคุมได้ไม่เต็มร้อย

จุดแข็งของรถไฟที่ทำให้คนยังวางใจ

แม้จะมีความเสี่ยงบ้าง แต่การเดินทางด้วยรถไฟก็มีข้อดีในแง่ความเสถียร เช่น

  • รถไฟไม่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดเหมือนรถยนต์
  • โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า เพราะเส้นทางชัดเจน
  • ไม่มีปัญหาเมาแล้วขับ เหมือนกรณีรถยนต์ส่วนบุคคล
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อระยะทางมักถูกกว่า โดยเฉพาะในเส้นทางไกล

ซึ่งทั้งหมดนี้ยังทำให้รถไฟเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความแน่นอนในการเดินทาง แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะระบบสำรองหรือมาตรการฉุกเฉินในไทยยังไม่รวดเร็วพอเทียบกับมาตรฐานสากล

จะรู้ได้ยังไงว่าเส้นทางที่เรานั่งปลอดภัยแค่ไหน

ทางที่ดีที่สุดคือ ติดตามข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมการขนส่ง หรือรีวิวจากผู้ใช้จริงในแต่ละเส้นทาง รวมถึงเลือกเส้นทางที่ผ่านการพัฒนาระบบรางใหม่ มีรางคู่ และรถไฟรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยสูง ถ้าเลือกไม่ได้ ก็ควรใช้วิธีเตรียมพร้อม เช่น ตรวจสอบข้อมูลสถานีที่จะแวะ หาที่นั่งใกล้ทางออก และหลีกเลี่ยงขบวนที่ขึ้นชื่อว่าเก่า หรือมักเกิดปัญหา

สรุป

รถไฟเป็นพาหนะที่มีศักยภาพสูงในการเดินทางระยะไกลด้วยความคุ้มค่า ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่ใช่พาหนะที่ “ปลอดภัยแบบไร้ข้อกังขา” ระบบรางไทยยังมีจุดอ่อนในเรื่องการซ่อมบำรุง ระบบรางเดี่ยว และมาตรการด้านความปลอดภัยที่ยังไม่เข้มข้นพอ ผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการรถไฟ ควรพิจารณาทั้งเส้นทางที่ใช้ รุ่นของรถไฟ และสถานการณ์ปัจจุบัน ควบคู่กับการวางแผนเผื่อเหตุฉุกเฉิน ไม่ใช่แค่รู้สึกว่าปลอดภัย แต่ต้องมั่นใจว่าปลอดภัยด้วยข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่ความเคยชินหรือความเชื่อส่วนตัวเท่านั้น

ที่มา: https://techhuhu.com