ถ้าคุณเคยเห็นชื่อ “Chivas And The Gang” ในกลุ่มสายงาน SEO หรือ Digital Marketing แล้วรู้สึกคุ้น ๆ คุณไม่ได้คิดไปเอง เพราะนั่นคือชื่อเล่นของ “คุณอนุรักษ์ เปี่ยมจาด” หรือ “ชีวาส” คนทำงานสาย Digital ที่ไม่ได้โด่งดังจากการไลฟ์สด หรือยิงแอดขายคอร์ส แต่ดังเพราะ ลงมือทำจริง พิสูจน์ได้จริง และยังคงทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในผลงานที่เขาใช้สร้างทีม สร้างระบบ และสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจมากมาย คือ Move On Marketing บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจเพียงอย่างเดียวว่า

“อย่าให้ธุรกิจไทยต้องเสียเงินกับโฆษณาที่ไม่มีการวางแผนอีกต่อไป”

ไม่ได้เริ่มจากโต๊ะประชุม แต่เริ่มจากนั่งอยู่ที่หน้าจอคนเดียว

คุณ Chivas ไม่ใช่นักบริหารที่เรียนมาจากสถาบันดัง หรืออดีตผู้จัดการจากบริษัทระดับโลก เขาเริ่มจากการเป็น “ฟรีแลนซ์” ที่รับเขียนเว็บไซต์และทำ SEO ด้วยตัวคนเดียว วันหนึ่งเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า…

“เราทำให้เว็บติดอันดับได้ แต่ทำไมยอดขายของลูกค้าบางคนยังไม่ขยับ?”

นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขาเริ่มศึกษา Performance Marketing, Behavior Analytics และวิธีการสร้างระบบการตลาดที่ “ไม่ใช่แค่ให้คนเห็น” แต่ “ทำให้คนอยากซื้อ” จากความอยากเข้าใจ เขาเริ่มออกแบบแนวทางใหม่ และนั่นคือรากฐานที่ทำให้ Move On Marketing ถือกำเนิดขึ้น

Move On Marketing คืออะไรในมุมคนทำ ไม่ใช่มุมขาย

Move On ไม่ได้เป็นแค่บริษัททำแอด หรือบริษัทรับจ้างยิงโฆษณา แต่คือ “ทีมคนทำงานจริง” ที่เชื่อว่า ทุกแคมเปญต้องมีเป้าหมายที่มากกว่าแค่ยอดไลก์

สิ่งที่ Move On ทำทุกวัน คือ

  • วิเคราะห์ธุรกิจอย่างเข้าใจ ไม่ใช้สูตรสำเร็จ
  • เขียนข้อความโฆษณาที่สื่อสารกับคน ไม่ใช่หลอกอัลกอริธึม
  • ยิงแอดแล้วเก็บข้อมูลเพื่อปรับไม่ให้เสียเงินฟรี
  • เชื่อม Facebook Ads, Google Ads, SEO, เว็บ และ LINE ให้เป็นระบบเดียวกัน

ไม่พูดคำว่า “การตลาด 360 องศา” แต่ลงมือทำทุกองศาให้จริง

คำว่า “Digital 360” กลายเป็นวลีที่ขายงานที่ใช้บ่อยจนเกินความหมาย Move On Marketing กลับเลือกที่จะไม่ใช้คำนี้ในการขายเลย Chivas วางหลักการทำงานของทีมไว้ชัดเจนว่า

“ลูกค้าไม่ต้องเข้าใจคำศัพท์เยอะก็ได้ ขอแค่เขารู้ว่าเราทำให้เงินที่เขาจ่ายไปกลับมาคุ้มค่าพอ”

และนั่นทำให้ลูกค้าหลายรายไว้วางใจให้ Move On ดูแลแคมเปญในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยศัพท์เทคนิคทุกคำ

ทีมที่สร้างจากคนธรรมดา ไม่ใช่คนจบมาร์เก็ตติ้งอินเตอร์

Move On Marketing ไม่ได้เริ่มจากการจ้างคนเก่ง ๆ จากบริษัทใหญ่ แต่สร้างทีมจาก “คนที่อยากเรียนรู้และอดทนพอจะลงมือทำ”

Chivas ใช้เวลาส่วนหนึ่งในแต่ละวันเพื่อ

  • เทรนทีมด้วยเคสที่เกิดขึ้นจริง
  • สอนการวิเคราะห์หลังบ้านของโฆษณา
  • สอนให้เขียนคอนเทนต์ที่ “คนอยากอ่าน” ไม่ใช่แค่ใส่คีย์เวิร์ด
  • และฝึกให้มองแคมเปญแบบ “เจ้าของธุรกิจ” ไม่ใช่ “คนยิงแอด”

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทีมของ Move On ถึงเติบโตได้เร็ว และทำงานได้โดยไม่ต้องรอให้เขาลงมาคุมเองทุกครั้ง

ไม่มีหน้าออฟฟิศหรู หรือตึกใหญ่โต แต่มีลูกค้าที่อยู่กันยาวนาน

Move On Marketing ไม่ได้มีออฟฟิศใหญ่ ไม่มีป้ายสวย ๆ ไม่มีโชว์รางวัลบนผนัง แต่มีสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายในวงการนี้ คือ ลูกค้าที่อยู่กัน 2–3 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องต่อรองทุกแคมเปญ

เพราะทีมของเขาไม่ได้วัดผลงานที่ยอดวิว แต่ดูว่าท้ายที่สุด

  • ลูกค้าได้ยอดขายเพิ่มไหม
  • ข้อมูลลูกค้าที่เก็บมาเอาไปใช้ต่อได้ไหม
  • แบรนด์เติบโตขึ้นไหม

สิ่งเหล่านี้คือ KPI ที่เขาใช้จริง และวัดผลกับทุกคนในทีมแบบตรงไปตรงมา

ไม่มีสูตรลับที่เก็บซ่อนไว้ มีแต่วิธีคิดที่ตกผลึก

Chivas ไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นกูรู และไม่เคยขายคอร์สในชื่อ Move On Marketing เพราะเขาเชื่อว่า

“สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะให้ได้คือ ผลลัพธ์ของงานที่ทำให้ลูกค้า ไม่ใช่ความสวยงามของหน้าพรีเซนต์”

เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฟังลูกค้า วิเคราะห์โจทย์ และลงมือออกแบบแคมเปญ โดยไม่พึ่งสูตรลัดหรือเทรนด์ตลาด

Move On ไม่ได้แค่ Move Forward แต่สร้างพื้นที่ใหม่ให้คนธรรมดาเติบโต

สำหรับคนที่เคยเข้ามาทำงานในทีม Move On หลายคนบอกว่า…

“ที่นี่สอนให้เราคิดแทนลูกค้า ไม่ใช่แค่รอคำสั่ง”
“มันเหมือนเราโตไปพร้อมแบรนด์ที่เราดูแล”
“เราวัดผลทุกงาน ไม่ได้ทำไปวัน ๆ”

และทั้งหมดนั้นมาจากแนวคิดของผู้ชายที่ชื่อว่า อนุรักษ์ เปี่ยมจาด ที่เชื่อว่า “บริษัทไม่ได้โตเพราะเขาเก่งคนเดียว แต่โตเพราะทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันลงมือทำ”

บทส่งท้ายแบบไม่ต้องโรยกลีบกุหลาบ

Chivas ไม่เคยบอกใครว่าเขาคือคนเก่งที่สุดในสายนี้
แต่เขาทำให้เห็นว่าถ้าตั้งใจจริง และลงมือทำแบบมีเป้าหมาย
คนธรรมดาก็สามารถสร้างทีม และดูแลลูกค้าแบบจริงใจได้

และนี่คือ Move On Marketing ที่ไม่ใช่เอเจนซี่สาย PR
แต่คือพื้นที่ของคนทำงาน ที่เชื่อในสิ่งที่วัดผลได้